ลิเวอร์พูลเปิดบ้านถล่มเลสเตอร์ยับเยินแต้มขยับขึ้นเท่าจ่าฝูง
เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 22 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วีกที่ 9 คู่ที่น่าจับตามองอีกหนึ่งคู่เป็นเกมบิ๊กแมตช์ระหว่าง ลิเวอร์พูล เปิดสนาม แอนฟิลด์ รับการมาเยือนของ เลสเตอร์ ซิตี้ ผลงานล่าสุดของทั้งสองทีม เจ้าบ้าน “หงส์แดง” เกมที่แล้วบุกไปแบ่งแต้มจาก แมนฯซิตี้ 1-1 ขณะที่ทีมเยือน “จิ้งจอกสยาม” เปิดบ้านเฉือน วูล์ฟส์แฮมป์ตัน 1-0 ซึ่งเกมนี้หากลูกทีมของ เจเก้น คล็อปป์ คว้าชัยจะมีเพิ่มเป็น 20 คะแนนเท่ากับ สเปอร์ส ทันที แต่หาก “จิ้งจอกสยาม” บุกมาคว้าชัยได้จะแซงขึ้นนำจ่าฝูงอีกครั้ง
เริ่มเกมมาเพียงไม่นาน ซาดิโอ มาเน่ ได้จังหวะกระชากลากเลื้อยไปแดนหน้า จากนั้นจ่ายคืนหลังให้ นาบี เกอิต้า ซัดนอกกรอบไปชนหัว ยูริ ตีเลม็องส์ ออกหลังเป็นเตะมุม ก่อนจังหวะต่อเนื่อง เจมส์ มิลเนอร์ จะเปิดมาเสาแรกให้ มาเน่ ขึ้นโขกเบียดเสาแรกเข้าข้างตาข่าย
ผ่านมาหลายนาทียังไม่มีจังหวะที่น่าตื่นเต้น จนกระทั่ง นาที 21 ลิเวอร์พูล ได้ประชูขึ้นนำไปก่อน 1-0 จากจังหวะเตะมุมทางฝั่งขวา เจมส์ มิลเนอร์ เป็นผู้รับหน้าที่ เปิดมาเสาแรก จอนนี่ อีแวนส์ แย่งชิงโขกได้แต่บอลผิดเหลี่ยมเปลี่ยนทางเข้าประตูตัวเอง กลายเป็นทำเข้าประตูตัวเองไป
นาที 41 ลิเวอร์พูล ได้ประตูออกนำ 2-0 หลัง แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน กระชากมาทางฝั่งซ้าย ก่อนเปิดโค้งเข้ากรอบเขตโทษให้ ดิโอโก โชตา โฉบเข้ามาโขกผ่านมือ แคสเปอร์ ชไมเคิล เข้าไป พร้อมทำสถิติเป็นนักเตะ ลิเวอร์พูล คนแรกที่ยิงในแอนฟิลด์ 4 เกมติดต่อกันในลีก จบครึ่งแรก “หงส์แดง” นำ 2-0
นาที 57 จิ้งจอกสยาม รอดเสียประตูที่สามอีกครั้ง หลัง โชต้า ซัดเสาแรกไปติดมือ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล บอลไหลมาเข้าทาง โชต้า อีกหนคราวนี้ลองเปิดมาเสาแรกบอลก็ยังไปติดมือ ชไมเคิ่ล ก่อนปลิ้นไปเข้าทาง ฟีร์มีโน่ โขกซ้ำแต่บอลไปชนเสา
นาที 77 ลิเวอร์พูล เกือบได้ลูก 3 อีกครั้งจากจังหวะที่ โรแบร์โต ฟิร์มิโน หลุดเข้าไปดวลเดี่ยวกับ แคสเปอร์ ชไมเคิล แต่ยิงบอลไปชนเสา และจังหวะจะซ้ำก็ถูกเคลียร์ออกจากเส้นมาได้หวุดหวิด
นาที 86 ลิเวอร์พูล มาได้ประตูปิดกล่องหลังได้ลูกเตะมุมทางฝั่งขวา และเป็น เจมส์ มิลเนอร์ โยนเข้ามาให้ โรแบร์โต ฟิร์มิโน โหม่งเข้าไป และเป็นประตูที่ 2 ในลีกของเจ้าตัว นำห่าง 3-0 หลังจากนั้นไม่มีฝ่ายใดทำอะไรกันเพิ่มได้ จบเกม ลิเวอร์พูล ถล่ม เลสเตอร์ ซิตี 3-0
