เจาะไม่เข้า! ลิเวอร์พูลเปิดบ้านเจ๊าจืดแมนยูศึกแดงเดือด ไร้ชัย 4 นัดติด

ลิเวอร์พูล 0-0 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 17 มกราคมที่ผ่านตามรายงานของ UFABET ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เป็นการแข่งขัน “ซูเปอร์บิ๊กแมตช์” แดงเดือด ระหว่าง ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนด์ฟิลด์ ต้อนรับการมาเยือนของคู่แค้นตลอดการ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผลงานล่าสุดของทั้งสองทีม ทางด้านเจ้าบ้าน “หงส์แดง” เกมลีกนัดล่าสุดพลาดท่าพ่ายให้กับ เซาแฮมป์ตัน 1-0 ส่วนทางด้านทีมเยือน “ปิศาจแดง” เกมลีกนัดล่าสุดฟอร์มเยี่ยมเฉือน เบิร์นลี่ ไป 1-0 ในเกมนี้หากเจ้าบ้านสามารถเอาชนะได้จะทำให้มี 36 คะแนนขึ้นเป็นจ่าฝูงร่วมกับ แมนยู

ผู้ตัดสินเป่านกหวีดเริ่มการแข่งขันผ่านไป 10 นาทีแรก เป็นทางด้านเจ้าบ้านมีโอกาสมากกว่าทั้งด้านการครองบอลและโอกาสในการทำประตู แต่ทางด้านทีมเยือนยังระมัดระวังเล่นกันอย่างรัดกุม 

จังหวะการทำเกมของเจ้าบ้านยังมีโอกาสให้ลุ้นมากกว่า และมีโอกาสได้ลุ้นประตูนำมากขึ้นเรื่อยๆ ในนาที 17 ชากิรี่ จ่ายบอลลึกให้ ซาดิโอ มาเน่ วิ่งไปเก็บบอลก่อนจ่ายคืนหลังให้ ฟีร์มิโน่ วิ่งเติมเกมมาซัดด้วยเท้าซ้าย แต่น่าเสียดายที่บอลหลุดกรอบไป

ในนาที 34 “ผีแดง” ได้โอกาสลุ้นทำประตูขึ้นนำหนแรกจากการพลาดท่าทำฟาวล์ของ ชากิรี่ เป็นจังหวะฟรีคิกนอกกรอบกว่า 25 หลา และเป็น บรูโน่ แฟร์นันด์ส เป็นผู้ลุ้นทำประตู แต่น่าเสียดายที่เจ้าตัวปั่นบอลข้ามกำแพงไปแล้ว แต่ติดไซด์โค้งถากเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย

จบครึ่งแรกยังไม่มีสกอร์ แต่เป็นทางด้าน ลิเวอร์พูล ที่มีโอกาสมากกว่า แต่ไม่สามารถเจาะแนวรับของ แมนยู ได้ยังเสมอกัน 0-0

ผู้ตัดสินเป่านกหวีดเริ่มการแข่งขันครึ่งเวลาหลัง ผ่านไปในนาที 58 แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เปิดบอลแรงจากทางฝั่งซ้ายมาเสาไกลบอลใกล้จะถึง โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ที่ง้างเท้ารอยิงอยู่แล้ว แต่ดันไปโดน แฮร์รี่ แม็คไกว์ร ที่วิ่งมาจิ้มบอลออกหลังหวุดหวิด

การแข่งขันผ่านไปถึงนาที 62 ยังคงเป็น หงส์แดง ที่กดดันต่อเนื่องคราวนี้เป็นทางด้าน โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่ได้โอกาสแต่งบอลเข้าซ้ายก่อนที่เจ้าตัวพยายามยิงยัดไปเสาแรกแต่บอลไปแฉลบขา แม็กไกวร์ ออกหลังไปอีก

เหมือนจะเป็นทางด้านทีมเยือนได้โอกาสทำเกมบุกบ้าง ในนาที 75 ผีแดง พลาดโอกาสได้ประตูขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย หลังจังหวะบอลสวนกลับของ แรชฟอร์ด พาบอลขึ้นมาทางซ้ายก่อนเลี้ยงจี้เข้ากรอบแล้วปาดให้ ลุค ชอว์ ที่วิ่งอ้อมหลังจากนั้นจ่ายเลียดให้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส แปด้วยเท้าถนัด แต่เจ้าถิ่นยังโชคดีที่บอลไปติดขาของ อลีสซง เบ็คเกอร์

ก่อนหมดเวลาการแข่งขันไม่นานในนาทีที่ 83 ทางด้านทีมเยือนเกือบได้ลุ้นประตูอีกครั้ง จากจังหวะของ แอรอน วาน-บิสซาก้า ได้โอกาสพาบอลกระชากขึ้นมาแล้วจ่ายต่อให้ ปอล ป็อกบา ซัดเต็มข้อด้วยขวามุมแคบ แต่น่าเสียดายที่บอลยังไปติดมืออลีสซงเช่นเดิม

ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมไม่มีโอกาสทำประตูได้ หมดเวลาการแข่งขัน ลิเวอร์พูล ทำได้เพียงแค่เสมอกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-0 แบ่งกันไปคนละ 1 แต้ม ส่งผลให้ “ผีแดง” ยังครองตำแหน่งจ่าฝูงเหมือนเดิม ส่วนทางด้านเจ้าบ้านเพิ่มสถิติยอดแย่ ไม่ชนะ 4 นัดติด