ราอูล การ์เซีย เหมาสอง พาบิลเบาเฉือนเรอัลมาดริด ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ

เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 14 มกราคม ที่ผ่านมา ในศึก ซูเปร์โกปา เด เอสปันญ่า รอบรองชนะเลิศ ซึ่งคู่นี้ทำการแข่งขันกันที่สนาม เอสตาดิโอ ลา โรซาเลด้า เป็นการพบกันระหว่าง เรอัล มาดริด พบ แอธฯ บิลเบา ผลงานการแข่งขันนัดล่าสุดของทั้งสองทีม ทางด้าน “ราชันชุดขาว” เกมลีกนัดล่าสุดทำได้เพียงเสมอกับ โอซาซูนา ทางด้าน “เดอะไลอ้อน” นัดล่าสุดพลาดท่าเปิดบ้านพ่ายให้กับ บาร์เซโลน่า ในเกมนี้หากทีมใดเป็นผู้ชนะจะได้เข้าไปชิงกับ บาร์ซ่า ในวันที่ 17 มกราคมนี้

ผู้ตัดสินเป่านกหวีดเริ่มการแข่งขันนาทีที่ 5 โอกาสในการลุ้นประตูขึ้นนำครั้งแรกเป็นของ “ราชันชุดขาว” จากจังหวะบอลทางฝั่งซ้ายจ่ายเข้าในให้ ลูก้า โมดริช สอดมาได้โอกาสดีดไซค์ก้อยแต่เบาไปตรงตัว อูไน ซิมอน ผู้รักษาประตูบิลเบา

จังหวะได้ประตูมาเร็วเกินคาดเพียงนาทีที่ 18 กลายเป็นทางด้าน แอธเลติก บิลเบา ได้ประตูขึ้นนำก่อนจากจังหวะเสียบอลหน้าเขตโทษ แดนี่ การ์เซีย แทงบอลทะลุช่องย้อนเข้าเขตโทษให้ ราอูล การ์เซีย หลุดกับดักล้ำหน้าสอดมา เลือกมุมเอียงตัวแปด้วยขวาเน้นๆ ผ่าน ติโบลต์ กูร์กตัวส์ ตุงตาข่าย

บิลเบายังไม่พอใจในนาทีที่ 37 ได้ประตูขึ้นนำเพิ่มมาเพิ่มสกอร์เป็น 2-0 จากจังหวะเสียท่าของ ลูกัส บาสเกซ ไปพลาดท่าดึง อินญิโก้ มาร์ติเนซ ร่วงลงไปในเขตโทษ ผู้ตัดสินไม่รอช้าเป่านกหวีดตัดสินเป็นจุดโทษทันที ราอูล การ์เซีย สังหารเข้าไปไม่พลาด

หมดเวลาการแข่งขันในครึ่งเวลาแรกเป็นทางด้าน แอธเลติก บิลเบา ทำได้ดีกว่า ขึ้นนำ เรอัล มาดริด 2-0

การแข่งขันในครึ่งเวลาหลังผ่านไปในนาทีที่ 62 “ราชันชุดขาว” พลาดโอกาสทองในการทำประตูตีเสมอจากจังหวะสอดเข้าเขตโทษของ เอแด็น อาซาร์ จ่ายบอลย้อนมาให้ มาร์โก อเซนซิโอ ซัดด้วยซ้ายเต็มข้อ น่าเสียดายที่บอลไปชนเสาแรกเด้งออก

ความพยายามสำเร็จ! ในนาทีที่ 73 มาดริด มาได้เฮดังจากประตูตีเสมอ จากจังหวะการบอลครอสทางริมเส้นฝั่งซ้ายบอลลึกมาเสาไกลถึง คาเซมิโร่ โหม่งย้อนให้ คาริม เบนเซม่า ตวัดบอลทิศทางเยี่ยม บอลไหลซุกก้นตาข่าย

หมดเวลาการแข่งขันไม่มีจังหวะการทำประตูเพิ่มเติม เป็นทางด้าน แอธเลติก บิลเบา เป็นฝ่ายเอาชนะ เรอัล มาดริด ไปได้ 2-1 ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศไปพบ บาร์เซโลน่า ในวันที่ 17 มกราคา