สเปอร์สเปิดบ้านยำเบรนท์ฟอร์ด ทะลุเข้าชิงคาราวบาวคัพในรอบ 6 ปี

เมื่อคืนวันอังคารที่ 5 มกราคม ที่ผ่านมา ในศึก คาราบาว คัพ รอบรองชนะเลิศ เป็นการพบกันระหว่างยอดทีมจาก พรีเมียร์ลีก สเปอร์ส เปิดสนาม ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของยอดทีมจากลีกน้อง แชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ อย่าง เบรนท์ฟอร์ด ผลงานนัดล่าสุดในถ้วยนี้ของทั้งสองทีม เจ้าบ้าน “ไก่เดือยทอง” ก่อนเข้ามารอบนี้เอาชนะ สโต๊ค ซิตี้ มาได้ 3-1 ส่วนทางด้านทีมเยือนเอาชนะนิวคาสเซิ่ลมาได้ 1-0 โดยในการแข่งขันรอบนี้จะเป็นการแข่งขันที่นับผลการแข่งขันจบในนัดเดียว ผู้ชนะในรอบนี้จะได้ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศในวันที่ 25 เมษายนนี้

ในเกมการแข่งขัน ผู้ตัดสินเป่านกหวีดเริ่มครึ่งเวลาแรกได้ 12 นาที เป็นทางด้านเจ้าบ้าน สเปอร์ส ได้ลุกเฮก่อนจากประตูขึ้นนำ 1-0 ในจังหวะที่ เซร์คิโอ เรกีลอน พาบอลขึ้นทางฝั่งซ้าย จากนั้นครอสบอลข้ามหัวมาเข้าหัว มุสซ่า ซิสโซโก้ ที่ยืนโล่งๆ คนเดียวแบบไร้ตัวประกบโขกสะบัด บอลเสียบเสาสองเข้าไปอย่างสวยงาม ชนิดที่ว่ารับไม่ได้

มุสซ่า ซิสโซโก้ ทำประตูขึ้นนำให้ สเปอร์ส

ทีมเยือนไม่น้อยหน้า ในนาทีที่ 23 เบรนท์ฟอร์ด มาได้จังหวะลุ้นหนแรกจากจังหวะเปิดลูกฟรีคิก มาติอัส เยนเซ่น กองกลางห้องเครื่องชาวเดนมาร์กครอสบอลเข้ามาให้ เอธาน พินน็อค แต่ทว่าเจ้าตัวโหม่งพลาดโขกหลุดกรอบออกไป

ในนาทีที่ 41 เจ้าถิ่น สเปอร์ส ได้จังหวะสวนกลับตอบโต้มาอีกครั้งและถึงกับเกือบได้ลุ้นประตูขึ้นนำอีกครั้ง ซน ฮึง-มิน โยนบอลเข้าไปให้ ลูคัส มูร่า สอดเข้ามาโหม่งแต่ยังไปติดเซฟของ ดาบิด ราย่า ออกไป

กลับมาทำการแข่งขันกันต่อในครึ่งเวลาหลัง ในนาทีที่ 49 เบรนท์ฟอร์ด เริ่มการแข่งขันครึ่งหลังมาได้อย่างดุดันและถึงกับได้ลุ้นประตูตีเสมอหลัง ดาวินซอน ซานเชซ แนวรับเจ้าถิ่นเข้าบอลพลาด บริย็อง เอ็มเบวโม่ ลากได้จังหวะลากบอลถึงเส้นหลัง แล้วแทงทะลุช่องมาหน้าประตูให้ อีวาน โทนี่ย์ ซัดด้วยขวาแต่บอลไปติดบล็อค แซร์ช โอริเย่ร์ ที่ตามมาขวางช่วยให้สเปอร์สไม่เสียประตู

จังหวะที่น่าสนใจต้องข้ามไปในนาทีที่ 70 สเปอร์ส มาได้ประตูขึ้นนำห่างเป็น 2-0 จากจังหวะการเข้าทำของ แฮร์รี่ เคน จ่ายบอลให้ ตองกีย์ เอ็นดอมเบเล่ แทงทะลุช่องให้ ซน ฮึง-มิน หลุดเดี่ยวเข้าไปซัดผ่านตัว ดาบิด ราย่า เข้าไปอย่างเด็ดขาด 

ซน ฮึง-มิน ทำประตูปิดกล่อง

ช่วงเวลาที่เหลือ ไม่มีประตูเพิ่มเติม หมดเวลาการแข่งขัน สเปอร์ส เปิดบ้านเอาชนะ เบรนท์ฟอร์ด 2-0 ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศลีก คัพ เป็นสมัยที่ 9 และเป็นหนแรกในรอบ 6 ปี นับตั้งแต่ปี 2015 ที่พ่ายให้ เชลซี โดยจะเข้าไปรอพบผู้ชนะระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดหรือแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในวันที่ 25 เมษายน นี้