เชลซีบุกยัดความพ่ายแพ้ให้ลิเวอร์พูลคาถิ่น เก็บสถิติแพ้ในบ้าน 5 นัดรวด

คืนวันพฤหัสบดีที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เป็นการพบกันระหว่างแชมป์เก่า ลิเวอร์พูล เปิดสนาม แอนฟิลด์ ต้อนรับการมาเยือนของ เชลซี ผลงานการแข่งขันนัดล่าสุดที่ผ่านมา เจ้าบ้าน “หงส์แดง” นัดล่าสุดฟอร์มแจ่มบุกไปชนะ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด มาได้ 2-0 ส่วนทางด้านทีมเยือน “สิงห์บลูส์” นัดล่าสุดเปิดบ้านเสมอ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แบบไร้สกอร์ 0-0

ผู้ตัดสินเป่านกหวีดเริ่มการแข่งขันครึ่งเวลาแรก ในนาทีที่ 7 เป็นทางด้านเจ้าบ้านได้โอกาสทักทายก่อน จากจังหวะของ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ได้บอลจากหน้าปากประตูตัวเอง จากนั้นมองหาเพื่อนร่วมทีมแล้วจ่ายต่อไปทางฝั่งขวาให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จับบอลหาช่องแล้วจ่ายคืนให้ โรเบิร์ตสัน ได้ช่องลองซัดไกลแต่โดนบอลไม่ดีหลุดออกหลังไป

เวลาผ่านไปนาทีที่ 16 ทางด้านทีมเยือนเร่งเครื่องบุกเพื่อหาประตูขึ้นนำ จากจังหวะของ เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า กระชากบอลขึ้นไปสูงเกือบถึงหน้าเขตโทษเจ้าถิ่น จากนั้นมองหาช่องยกบอลข้ามผู้เล่นเจ้าถิ่นไปถึง ติโม แวร์เนอร์ ได้โอกาสหลุดเข้าไปซัด แต่เจ้าถิ่นโชคดีที่ อลีสซง เบ็คเกอร์ ผู้รักษาประตูรับบอลไว้ได้สบาย

สกอร์แรกเกิดขึ้นจนได้!! ในนาทีที่ 42 เป็นทางด้าน เชลซี ได้ประตูออกนำไปก่อน 1-0 และเป็นทาง เอ็นโกโล่ ก็องเต้ มองหาช่องแล้วโยนบอลยาวไปให้ เมสัน เมาน์ท จับบอลหนึ่งจังหวะก่อนกระชากหนีผู้เล่นเจ้าถิ่นแล้วหาช่องบรรจงปั่นเน้นๆ บอลพุ่งหนี อลีสซง เสียบตาข่ายอย่างสวยงาม

หมดเวลาการแข่งขันครึ่งเวลาแรก เป็นทางด้านทีมเยือนที่ทำได้ดีกว่ามาก ลิเวอร์พูล 0-1 เชลซี

เริ่มแข่งขันกันต่อครึ่งเวลาหลัง ในนาทีที่ 50 เจ้าถิ่นเร่งเครื่องบุกเพื่อทวงประตูตีเสมอ เป็นทางด้าน เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ได้ลุ้นเปิดลูกเตะมุมจากทางฝั่งขวาบอลยาวไปถึง ฟาบินโญ่ ได้ขึ้นโขก แต่ไม่ดีพอบอลกระดอนออกข้างไป

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในนาทีที่ 77 ทีมเยือนเกือบได้ประตูเพิ่ม จากจังหวะของ เมสัน เมาน์ท โชว์ทักษะเลี้ยงตะลุยมาทางฝั่งซ้าย ก่อนจ่ายตัดหลัง ฟาบินโญ่ ไปถึง ติโม แวร์เนอร์ หาช่องสอดมารับบอล จากนั้นหาช่องซัดอย่างเร็ว แต่บอลดันไปติดตัวผู้รักษาประตูเจ้าถิ่นอย่างน่าเสียดาย

ก่อนหมดเวลาการแข่งขันในนาทีที่ 85 ลิเวอร์พูล เร่งเครื่องบุกอีกครั้ง และเป็นทางด้าน เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ที่เลี้ยงขึ้นสูงมาทางฝั่งขวา จากนั้นโยนบอลเข้าในเขตโทษไปถึง จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม วิ่งสอดชิงโขกบอล แต่ก็ยังไปเข้ามือของ เอดูอาร์ เมนดี้ รับไว้ได้สบาย

เวลาที่เหลือไม่มีสกอร์เพิ่มเติม หมดเวลาการแข่งขัน เป็นทางด้าน เชลซี ที่บุกมาเอาชนะ ลิเวอร์พูล แชมป์เก่าได้ถึงถิ่น 1-0 เก็บเพิ่มสามคะแนน มีเพิ่มเป็น 47 คะแนน ขยับขึ้นอันดับ 4 แซง เอฟเวอร์ตัน ส่วนทางด้าน “หงส์แดง” หล่นไปอยู่อันดับ 7