แมนยูฟอร์มดุขยี้โซเซียดาดขาดลอย ยูโรปาลีก รอบ 32 ทีม

เรอัล โซเซียดาด 0-4 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

คืนวันพฤหัสบดีที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่าน ในศึกฟุตบอล ยูโรปา ลีก รอบ 32 ทีมสุดท้าย นัดแรก เป็นการพบกันระหว่าง เรอัล โซเซียดาด พบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยนัดนี้ได้เดินทางไปแข่งกันที่สนาม อัลลิอันซ์ สเตเดี้ยม ผลงานการแข่งขันนัดล่าสุดที่ผ่านมา โซเซียดาด นัดล่าสุดนัดล่าสุดบุกไปเอาชนะ เคตาเฟ่ มาได้ 1-0 ส่วนทางด้านทีมเยือน “ผีแดง” นัดล่าสุดฟอร์มจืดบุกไปเจ๊า เวสต์บรอมวิช มาได้ 1-1

ผู้ตัดสินเป่านกหวีดเริ่มการแข่งขันครึ่งเวลาแรก เวลาผ่านไปเพียง 2 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด เกือบพลาดท่าเสียสกอร์อย่างรวดเร็ว หลัง เอริค ไบยี่ จ่ายบอลคืนหลังพลาด ไปถูก อเล็กซานเดอร์ อิซัค ฉกบอลไปแล้วไหลต่อไปทางขวาไปที่ อัดนาน ยานาไซ หาช่องลองส่องโค้ง น่าเสียดายบอลออกข้างเสาด้านซ้ายเพียงนิดเดียว

สกอร์แรกเกิดขึ้นจนได้! ในนาทีที่ 27 ผีแดง ได้ประตูขึ้นนำไปก่อน 1-0 จากจังหวะของ มาร์คัส แรชฟอร์ด สลับไปเล่นบอลทางริมเส้นฝั่งซ้าย จากนั้นเจ้าตัวตัดสินใจวางบอลเข้าในเขตโทษ เป็นทางด้าน โรบิน เล นอร์มานด์ แนวรับโซเซียดาดพลาดไปชนกับผู้รักษาประตูเพื่อนร่วมทีม บอลกระดอนไปทาง บรูโน่ แฟร์นันด์ส ยืนแปเน้นๆ ตุงตาข่ายไปอย่างง่ายดาย

หมดเวลาการแข่งขันในครึ่งเวลาแรก เป็นทางด้าน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำได้ดีกว่าทำประตูขึ้นนำ เรอัล โซเซียดาด ไปก่อน 1-0

กลับมาแข่งขันกันต่อในครึ่งเวลาหลัง ในนาทีที่ 57 แมนยู ได้ประตูขึ้นนำเพิ่มเป็น 2-0 จนได้ และเป็น มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่ได้จังหวะจ่ายบอลเรียดริมสนามฝั่งซ้าย บอลไหลไปเข้าทาง แดเนียล เจมส์ กระชากบอลหนีแนวรับโซเซียดาด แต่กลายเป็น บรูโน่ แฟร์นันด์ส ที่วิ่งมาซัดตามน้ำในเขตโทษสวนตัวผู้รักษาประตูคู่แข่งซุกก้นตาข่าย

ผ่านไปในนาทีที่ 65 ผีแดง ขึงเกมบุกจนได้ประตูเพิ่มเป็น 3-0 จากจังหวะที่ เฟร็ด ได้ช่องจ่ายบอลจังหวะเดียวกลางสนามไปให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด หาจังหวะพาบอลเข้าเขตโทษ แล้วได้ช่องเลือกมุมเอียงตัวปั่นหนี อเล็กซ์ เรมิโร่ ผู้รักษาประตูโซเซียดาดไปอย่างเหนือชั้น

ก่อนหมดเวลาการแข่งขัน ในนาทีที่ 90 แมนยู ได้ประตูตอกย้ำชัยชนะเพิ่มเป็น 4-0 เป็นทาง เอริค ไบยี่ เปิดบอลยาวไปริมเส้นฝั่งขวา ไปถึง แดเนี่ยล เจมส์ รับบอลแล้ว กระชากเจาะเข้าเขตโทษ แล้วมองหาช่องจากนั้นบรรจงซัดเต็มข้อลอดขา อเล็กซ์ เรมิโร่ เข้าไปอีกลูก

จากนั้นผู้ตัดสินเป่านกหวีดจบการแข่งขัน เป็นทาง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เฉียบคมกว่า เอาชนะ เรอัล โซเซียดาด ไปได้ถึง 4-0 กุมความได้เปรียบได้ก่อนในนัดแรก ซึ่งนัดที่สองจะต้องไปแข่งขันกันอีกในวันที่ 25 กุมภาพันธ์